Bangpakok Hospital

6 สัญญาณเตือน มะเร็งลำไส้

3 ก.ค. 2566

        6 สัญญาณเตือน มะเร็งลำไส้

      “มะเร็งลำไส้ใหญ่” โรคที่พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ และทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด

     โดยจากสถิติพบผู้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพศชาย 10 คนต่อประชากรชาย 100,000 คน และเพศหญิง 7 คนต่อประชากร 100,000 คน แต่มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคที่ป้องกันได้หากรู้เท่าทัน การสังเกตอาการและวิธีป้องกันตัวเอง เพราะสาเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากกรรมพันธุ์เป็นส่วนหนึ่งแล้วพฤติกรรมการทานอาหารของคนไทยคือสาเหตุหลักของมะเร็งลำไส้ใหญ่

  มะเร็งลำไส้ใหญ่ยังเป็นโรคที่จะส่งสัญญาณเตือนออกมาเป็นอาการที่เห็นได้ชัดในชีวิตประจำวัน สามารถป้องกันได้ตั้งแต่แรกเริ่ม และนี่คือ 6 สัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่

  1. ท้องผูกบ่อยจนกลายเป็นเรื่องปกติ

บางคนมีปัญหาเรื่องท้องผูกมาตั้งแต่เด็กๆ อาจเป็นเพราะพฤติกรรมการกินที่ไม่กินผักผลไม้ ร่างกายไม่ได้รับไฟเบอร์เพียงพอ และดื่มน้ำน้อย ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานไม่ดี แต่บางรายมีอาการท้องผูกเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตในวัยทำงาน และปล่อยให้ท้องผูกเรื้อรังจนมองว่าเป็นเรื่องปกติ และนี่คือความเสี่ยงที่บ่งบอกว่าคุณมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในอนาคต

  1. อุจจาระลีบเป็นลำเล็ก

เนื่องจากมะเร็งลำไส้ใหญ่มักเริ่มจากการมีติ่งเนื้อขึ้นมาในลำไส้ ซึ่งอาจเป็นติ่งเนื้อธรรมดาไม่ใช้เนื้อร้าย จึงพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็งในภายหลัง การมีติ่งเนื้อขึ้นขวางในลำไส้ทำให้อุจจาระที่เคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่มีลักษณะถูกบีบให้เป็นลำเล็กลีบ

  1. กินอาหารเท่าเดิมแต่น้ำหนักลด

ลักษณะอาการคือน้ำหนักตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีพฤติกรรมการกินอาหารแบบเดิมหรือมากกว่าเดิม

  1. อ่อนเพลียอ่อนแรงแบบไม่มีสาเหตุ

อาจเกิดจากการที่มีเลือดออกในลำไล้ปนมากับอุจจาระ หากเสียเลือดจากการขับถ่ายมากอาจมีภาวะซีดและโลหิตจางร่วมด้วย ยิ่งทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียอ่อนแรงต่อเนื่องมากขึ้น แม้มะเร็งลำไส้ใหญ่จะเป็นมะเร็งร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับสามในปัจจุบัน แต่หากระวังในพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต หมั่นสังเกตตัวเองได้ทันการได้รับการรักษาได้ทันท่วงทีโอกาสรอดชีวิตก็ยิ่งสูงขึ้น

  1. มีอาการท้องเสียสลับกับท้องผูก

การมีอุจจาระแข็งและเหลวสลับกัน เป็นติดต่อกันแบบมีอาการเรื้อรังถึงแม้ว่าจะกินอาหารที่เหมาะสมไม่ได้เป็นสาเหตุให้ท้องเสียก็ยังมีอาการนี้อยู่ นี่อาจเป็นความผิดปกติที่เกิดจากภายในลำไส้

  1. มีเลือดสดหรือเลือดสีแดงเข้มมากปนมากับอุจจาระ

อาจเกิดจากอุจจาระที่แข็งเมื่อเบียดกับติ่งเนื้อที่ขึ้นผิดปกติภายในลำไส้เกิดเป็นแผลทำให้มีเลือดออกและปนออกมาในบางครั้งที่ขับถ่าย

Go to top
Copyright © 2015 Bangpakok Hospital All rights reserved.