Bangpakok Hospital

ต้อกระจก เกิดจากอะไร มีกี่ระยะ

16 ก.ค. 2568


โรคต้อกระจก (
Cataract)
   เป็นต้อชนิดหนึ่งที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับเลนส์ตา (Lens) เกิดจากโครงสร้างโปรตีนในเลนส์ตาเปลี่ยนไป จนทำให้เลนส์ไม่ใสอย่างที่ควรเป็น เลนส์จะมีลักษณะเป็นไตแข็ง สีขุ่น บริเวณที่ขุ่นอาจจะอยู่ตรงกลางเลนส์ หรือบริเวณขอบเลนส์ก็ได้ ทำให้แสงผ่านเข้าไปจนถึงจอประสาทตาที่อยู่ด้านในได้น้อยลง ทำให้ผู้ป่วยโรคต้อกระจกมีการมองเห็นที่ลดลง บางครั้งก็ทำให้การตกกระทบของแสงเปลี่ยนไปจนค่าสายตาเปลี่ยน อาจมองไกลไม่ชัด หรือทำให้เกิดภาพซ้อนได้ ซึ่งบางทีอาจจะมีอาการใกล้เคียงกับสายตาสั้น
สาเหตุของต้อกระจก
   ต้อกระจกจะพบมากในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเพราะเมื่ออายุมากขึ้น ส่วนต่างๆของร่างกายจะเริ่มเสื่อมไปตามวัย หากเลนส์ตาเสื่อมสภาพ จนโครงสร้างทางเคมีของโปรตีนในเลนส์ตาเสื่อม ก็จะเกิดเป็นโรคขึ้นมานั่นเองหรือเกิดจากโรคบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคเกี่ยวกับไทรอยด์ หรือโรคอ้วน
   อีกสาเหตุหนึ่งที่สามารถพบได้ คือการเป็นต้อกระจกโดยกำเนิด (Congenital cataract) อาจจะเกิดจากการเจริญผิดปกติในครรภ์ โรคทางกรรมพันธุ์ หรือเกิดจากการติดเชื้อบางอย่าง เช่น หัดเยอรมัน หรือไวรัสเริม เป็นต้น
สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดต้อกระจก
นอกจากสาเหตุภายในร่างกายแล้ว ต้อกระจกยังเกิดจากพฤติกรรม หรือภาวะอื่นๆ ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น
  • จ้องแสงอัลตราไวโอเลต (UV) หรือแสงที่สว่างมากเกินไปเป็นเวลานาน เช่น แสงจากดวงอาทิตย์ แสงจากโทรศัพท์มือถือตอนกลางคืน แสงจากการเชื่อมเหล็ก
  • เคยเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับดวงตาจนกระทบกระเทือนดวงตามากๆ หรือมีสิ่งแปลกปลอมกระเด็นเข้าตา เช่น เศษเหล็ก เศษหิน หรือสารเคมีอันตราย
  • เคยเกิดภาวะอื่นๆเกี่ยวกับตา เช่น การอักเสบ ติดเชื้อในตา หรือมีสายตาสั้นมากๆ
  • เคยผ่าตัดดวงตา
  • ใช้ยาชนิดต่างๆเป็นเวลานาน เช่น ยาหดม่านตา ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ โดยเฉพาะยากลุ่มสเตียรอยด์
  • เคยเข้ารับการฉายรังสี
  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก สูบบุหรี่จัด
ต้อกระจก มีกี่ระยะ?
   ต้อกระจกมีทั้งหมด 3 ระยะ ตามความเข้มของเลนส์ตา ได้แก่
ระยะเริ่มต้น
   ระยะนี้แทบไม่มีอาการ และไม่รู้ตัว ซึ่งมักจะรู้ตัวจากการบังเอิญตรวจพบโดยคุณหมอจักษุแพทย์ เมื่อไปตรวจสุขภาพตาหรือไปรักษาดวงตาบางอย่าง โดยระยะนี้อยู่ในช่วงเป็นต้อกระจก 10 – 20% ภาพที่เห็นเหมือนปกติ เราจะไม่รู้สึกถึงความขุ่นมัว แต่เราจะเริ่มรู้สึกว่าภาพไม่ได้คมชัด 100% เหมือนเมื่อก่อน
ระยะปานกลาง
   ต้อกระจกประมาณ 30 – 40%  ช่วงนี้เริ่มรู้สึกว่ามองเห็นภาพคมชัดน้อยลง ค่าสายตาเปลี่ยน หากตัดแว่นใหม่ก็จะช่วยให้มองเห็นได้ดีขึ้น แต่ไม่คมชัด 100% ในระยะนี้เราจะยังไม่แนะนำให้ผ่าตัด แต่จะใช้วิธีการใส่แว่นไปก่อน จนกระทั่งต้อกระจกเป็นเยอะมากขึ้นประมาณ 50% ขึ้นไป
ระยะสูง
   ต้อกระจกประมาณ 50% ขึ้นไป ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่จักษุแพทย์เริ่มแนะนำให้เราผ่าตัดต้อกระจกแล้วเพราะเป็นช่วงที่ง่ายต่อการเปลี่ยนเลนส์ตา และหลังผ่าตัดก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
วิธีป้องกันโรคต้อกระจก
  • ระวังไม่ใช้สายตามากเกินไป ควรถนอมสายตาด้วยการพักสายตาบ้างหลังใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • ไม่มองแสงจ้าเป็นเวลานาน หากต้องอยู่ในที่แสงจ้า ควรใส่แว่นกันแดดหรือหมวกปีกกว้าง ถ้าทำงานที่ต้องจ้องแสง ควรมีเครื่องมือป้องกันดวงตาจากแสงด้วย
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารบำรุงสายตา เช่น วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอ ไม่ต้องทานอาหารเสริมให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะยังไม่มีการยืนยันทางการแพทย์ว่าอาหารเสริมสามารถป้องกันต้อกระจกได้
  • ไม่ควรซื้อยาหยอดตามาใช้เอง หากตามีปัญหาควรพบแพทย์ ให้แพทย์จ่ายยาเท่านั้น
  • งดสูบบุหรี่ และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ไม่ทำให้ตนเองเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุที่จะกระทบกับดวงตา
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการนัดหมายแพทย์ เพื่อทำการปรึกษา
โทร. 0-2109-1111 , 0-2109-2222
Go to top
Copyright © 2015 Bangpakok Hospital All rights reserved.