Bangpakok Hospital

“งูสวัด” ความเจ็บที่คุณไม่อยากเจอ

18 มิ.ย. 2568


โรคงูสวัด
 เกิดจากอะไร?
   งูสวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ (Varicella zoster virus: VZV) ที่เมื่อติดเชื้อครั้งแรกจะทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส แต่เมื่อหายดีแล้ว เชื้อไวรัส VZV จะเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทโดยไม่แสดงอาการใด ๆ ได้นานหลายปีจนเมื่อภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ เชื้อไวรัส VZV ที่แฝงตัวอยู่จะค่อย ๆ กำเริบโดยการแบ่งตัว เพิ่มจำนวน และแพร่กระจายไปตามปมประสาทรับความรู้สึกและรอบปลายประสาทผิวหนังจนทำให้เส้นประสาทอักเสบ ปวดตามแนวเส้นประสาท เกิดรอยโรคลักษณะผื่นแดงที่ผิวหนัง ตามด้วยตุ่มน้ำใสขึ้นเรียงกันเป็นกลุ่ม พาดยาวตามแนวปมประสาทรับความรู้สึก ทำให้มีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน เจ็บแปลบตามร่างกาย ปวดหัว และอาจมีไข้ร่วม ผู้ที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสทุกคนล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคงูสวัดด้วยกันทั้งสิ้น
ผู้ที่มีความเสี่ยงโรคงูสวัด คือใคร?
  •    ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
    •    ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ
    •    ผู้ที่ทานยากดภูมิคุ้มกัน
    •    ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) 
    •    ผู้ที่เป็นมะเร็ง
    •    ผู้ป่วยติดเตียง
    •    ผู้ที่มีความเครียด
    •    ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
    •    ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง
    •    ผู้ที่เคยได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
    •    ผู้ที่รับยาเคมีบำบัด
    •    ผู้ที่ใช้สเตียรอยด์เป็นเวลานาน
    •    ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคแพ้ภูมิตนเอง หรือโรคเอสแอลอี (SLE) โรคหัวใจ โรคไต
ความรุนแรงที่มาพร้อมกับงูสวัด
เมื่อผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นงูสวัด มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา
  • อาการปวดปลายประสาท
เจ็บ ปวดแสบ ปวดร้อนต่อเนื่องเป็นเดือนๆ หรือนานเป็นปี
  • งูสวัดขึ้นตา
อาจทำให้การมองเห็นลดลง หรือตาบอด
อาการของโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองแย่ลงเมื่อเป็นงูสวัด
  • เสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือดเพิ่มขึ้น 68% ภายในช่วง 3 เดือนหลังจากเป็นงูสวัด
  • เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น 78% ภายในช่วง 1 เดือนหลังจากเป็นงูสวัด
นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง แตก ตีบ ตัน
   อีสุกอีใสในวันนั้น เป็นงูสวัดในวันนี้ อีสุกอีใสเมื่อหายแล้วเชื้อไวรัสไม่หายไปแต่ซ่อนอยู่ในปมประสาท รอวันปะทุเป็นงูสวัดในเวลาที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ยิ่งมีโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มความเสี่ยงงูสวัดมากขึ้น
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการนัดหมายแพทย์ เพื่อทำการปรึกษา
โทร. 0-2109-1111 , 0-2109-2222
 
Go to top
Copyright © 2015 Bangpakok Hospital All rights reserved.